เครื่องวัดแสงน่ะ
แสงสำหรับการถ่ายภาพนั้นมี แสงอยู่ 2 ประเภท คือ Incident Light หรือ แสงจากแหล่งกำเนิดแสง และ Reflected Light แสงตกกรทบวัตถุ หรือภาพที่เราจะถ่าย
แสง Incident Light คือแสงที่มาจากต้นกำเนิดแสง คือแสงจาก พระอาทิตย์ พระจันทร์ แสงแฟลช หรือแสงอื่นๆ
แสง Reflected Light คือแสงที่ตกกระทบวัตถุ แล้วสะท้อนออกมาจากวัตถุ เข้ามาหากล้อง ถ่ายรูปของเรา
การวัดแสงที่ดี จะต้องวัดแสงจากแหล่งกำเนิดแสง โดยเฉพาะเมื่อมีแสงมาจากแหล่งกำเนิกมากกว่า 1 แหล่ง เช่น การจัดแสงโดยใช้แฟลช
ส่วนแสงธรรมชาตินั้น เราคิดว่ามีแสงมาจากดวงอาทิตย์ที่เดียว แต่ความจริงแล้ว มันมีแสงที่สะท้อนมาจากวัตถุต่างๆ ที่จะมาตกกระทบ Subject หรือภาพที่เราจะถ่าย
ดังนั้น การวัดแสงที่ดี เราจะต้องวัดแสงโดยรอบวัตถุ (Subject) ที่เราจะถ่าย ว่ามีแสงจากแหล่งแสงมากระทบวัตถุ จากมุมไหน เท่าไร ...
เครื่องวัดแสงภายนอกสาวนใหญ่จะเป็นเครื่องวัดแสง ประเภท Incident Light Meter คือวัดแสงจากแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง
แต่มีเครื่องวัดแสงบางประเภทเหมือนกันที่วัดแสงตกกระทบ ซึ่งจะมีที่ส่อง เหมือนกับ วิวไฟน์เดอร์ กล้อง ซึ่เราจะต้องส่องเครื่องวัดแสงนั้นไปที่ วัตถุที่เราจะถ่ายโดยตรง ซึ่งเครื่องวัดแสงประเภทนี้ จะทำงานเหมือนเครื่องวัดแสงที่อยู่ในกล้องทั่วไป
การที่จะวัดแสงเพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก ควรใช้เครื่องวัดแสงแบบ Incident Light Meter ทั้งนี่เพื่อที่เราจะได้ค่าของแสงโดยตรง
วิธีวัดก็จะหันหน้าของเครื่องวัดแสง ไปหาแหล่งกำเนิดแสง โดยตรงเช่นพระอาทิตย์
วัดแสงเพื่ออะไร?
วัดปริมาณแสง เืพื่อปรับขนาดรูรับแสง ให้เหมาะสมกับสภาวะแสงขณะนั้น ซึ่งตัวเครื่องวัดมันจะบอกว่า แสงขนาดนี้จะต้องปรับรูปรับแสง ที่ F เท่าไหร่ speed shutter ประมาณไหน เครื่องมันจะรายงานผล ค่ากลางๆ มาให้
ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้สวย แบบหนังสืออย่างว่าเลยละ
เอาเรื่องชดเชยแสงก่อนนะครับ
มิเตอร์วัดแสง มันจะบอกว่า แสงน้อยหรือมากเกินไป
โดยมันจะเข้าใจว่าโลกนี้เป็นสีเทาครับ (ความเข้ม18%)
ถ้าเอาไปถ่ายของขาวๆ มันจะเข้าใจว่าเป็นสีเทา ที่สว่างจ้า
กล้องมันก็จะบอกว่าสว่างนะ ลดๆลงมาหน่อย
ทำให้เวลาถ่ายออกมากลับได้ภาพวัตถุสีขาวที่หม่นๆ
เพราะกล้องไม่รู้จักว่าอันไหนคือสีขาว อันไหนคือ สีเทาที่สว่าง
อันไหนคือ สีดำ หรืออันไหนคือสีเทาที่อยู่ในที่มืด
เครื่องวัดแสงในกล้องเลยเชื่อไม่ค่อยได้
นอกจากเรื่องสีของวัตถุแล้ว ยังมีเรื่องของส่วนต่างๆของภาพที่มีแสงไม่เท่ากัน เช่นการถ่ายย้อนแสง อีกด้วย ต้องศึกษาเพิ่มเอง
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน
ชดเชยแสง ไม่ใช่ชื่อของ ปุ่ม นะครับ
แต่เป็นชื่อเรียกของวิธีการ
วิธีการที่ว่าก็คือ การปรับค่าแสง เพื่อทำให้มิเตอร์อ่านออกมาไม่ตรงกลาง (เพราะเครื่องวัดแสงมันเชื่อไม่ได้) จะปรับให้มัน + (โอเวอร์)หรือ - (อันเดอร์) ก็ตามแต่
ซึ่งการชดเชยแสงทำได้โดย (ตรงนี้พยายามเข้าใจหน่อยนะ)
1 ปรับความเร็วชัตเตอร์
2 ปรับรูรับแสง
3 ปรับ ISO (บางคนไม่นับวิธีการนี้)
ดังนั้น โหมด M ก็ชดเชยแสงโดยการทำตามที่ว่ามา
ส่วนในโหมด ออโต้ต่างๆ การชดเชยแสงจะไม่สามารถปรับตามข้อ 1 2 3 ได้เพราะกล้องมันจะปรับให้อยู่ตรงกลางตลอด
เค้าเลยมีปุ่มชดเชยแสงมาให้
เวลาใช้กับ โหมด AV กล้องจะชดเชยโดยการปรับความเร็วชัตเตอร์ให้
โหมด TV กล้องก็จะชดเชยโดยการปรับรูรับแสงให้
ลองอ่านเรื่องการวัดแสงจากนี่ดู
http://www.cm108.com/bbb/index.php?automodule=blog&blogid=8&showentry=508