เคยเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้า Image storage (ซึ่งหลังๆจะกลายเป็น multimedia storage ไปซะแล้ว) อย่าง EPSON P5000 ไปนานแล้ว อย่างที่เคยเขียน อุปกรณ์ตัวนี้มีราคาแพง แต่คุณภาพกับราคาถ้างบถึงก็ถือว่าผ่านหมด แต่ถ้างบจำกัดก็ต้องหายี่ห้อหรือรุ่นอื่นๆแทนกันไป
จุดเด่นของ P5000 อยู่ที่การ support ไฟล์รูปภาพได้แทบทุกกล้องในโลกใบนี้ โดยเฉพาะการ support RAW ไฟล์ อีกทั้งความเร็วในระดับต้นๆที่จะแพ้ก็พวก image storage ที่ไม่มีหน้าจอแต่เน้นความเร็วอย่าง NexTO แต่ที่ไม่แพ้ใครก็คือหน้าจอที่แสดงผลได้สุดๆ (ยังนึกไม่ออกว่าจอของ D3 จะเจ๋งกว่าขนาดไหน)
ในเมื่อมีข้อดีเยอะแยะแต่เนื่องด้วยราคาที่สูงชลูดจนถ้าไม่มีงบ หรือ ไม่ได้มีรายได้หลักมาจากการถ่ายภาพ ก็คงไม่สมควรที่จะจัดหามาติดกระเป๋ากัน แต่พอดีทริปญี่ปุ่นล่าสุดได้ไปเจอเจ้า P3000 ซึ่งเป็นตัวรองลงมาของ P5000 ที่ราคาต่างกันราวๆ 4500 บาท ก็นับว่าเป็นทางเลือกนึงของการประหยัดงบได้ดีทีเดียว
ข้อแตกต่างระหว่าง P3000 กับ P5000 คร่าวๆก็มีแค่เรื่อง HDD ที่ P3000 ให้มา 40GB ส่วน P5000 ให้มา 80GB ส่วนเรื่องความเร็วและประสิทธิภาพ บอกได้ว่าเหมือนกัน
ที่ต่างกันชัดๆก็คือบอดี้ที่ P5000 มีสีดำสนิท ส่วน P3000 มีสีเงินคาด
Image storage มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเก็บรูปถ่ายน่ะครับ ใช่เื่พื่อ...เวลาเราไปไหนไกลๆ ที่ไม่สามารถ Notebook หรือ อุปกรณ์อย่างอื่นที่มันสามารถ backup รูปภาพของเราได้
อธิบายง่ายๆ คือ เวลาเราไปเที่ยว เรามี memory อยู่ 1G ซึ่งบางครั้ง เรายังถ่ายไม่จุใจเลย มันเต็มซะแล้ว เราก็เอาเจ้า memory ของเี่ราไปเสียบกับเครื่องที่ว่านี่แหละ Image storage แล้วก็ copy ข้อมูลไปเก็บไว้
ซึ่ง Image storage มันก็มีอยู่หลายรุ่นหลายยี่ห้อ แล้วแต่เราจะเลือก ข้อมูลด้านบน เขาก็นำเสนอรุ่นที่มีหน้าจอ LCD ไว้สำหรับ ดูรูปภาพ ซึ่งแต่ก่อน ไม่มี แต่ก่อนมันจะเป็นแท่งๆ ที่ copy ไว้ได้อย่างเดียว ดูไม่ได้ - -a
เดี๋ยวนี้ มันสามารถเล่นหนัง เพลง vdo ได้หมดแล้ว เหมือนเครื่องเล่นชิ้นหนึ่งที่เราพกพาไปไหนต่อไหนได้ มันดูคุ้มค่าที่เราจะซื้อมากขึ้น แทนที่จะเอาไ้ว้เก็บรูปถ่าย สำหรับช่างถ่ายภาพเพียงอย่างเดียว!
Image Censor กับ Image storage ต่างกันสิ้นเชิงครับ
Image Censor = ตัวรับภาพ ที่อยู่ภายในกล้อง
Image Storage = ตัวเก็บข้อมูลรูปภาพ ซึ่งไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพแต่อย่างใด