เชื่อกันว่าการที่
แหวนแต่งงานนั้นสามารถใช้แสดงคุณค่าทางใจในวันสุดแสนสำคัญของคู่รักได้ ก็เพราะว่าการที่แหวนมีทรวดทรงเป็นวงกลม อันเป็นการแสดงถึงความหมายของความไม่มีที่สิ้นสุดและความเป็นนิรันดร ทำให้แหวนกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่คู่สมรสมีให้แก่กันอย่างไม่มีวันสิ้นสุด และยิ่งเมื่อถูกนำมาสวมใส่ที่นิ้วนางด้านซ้าย ซึ่งเชื่อกันว่านิ้วนางข้างซ้ายเป็นศูนย์รวมของเส้นเลือดที่เชื่อมตรงไปยังหัวใจอยู่หรือที่เรียกกันว่าเส้นเลือดแห่งความรักกัน ซึ่งเมื่อสวมแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายก็เสมือนกับการสวมแหวนเพื่อยืนยันความรักที่มีในหัวใจของคู่รัก
ประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานแสดงถึงการสวม
แหวนแต่งงาน นั้นมีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ โดยเริ่มจากการนุ่งแหวนที่ทำจากหญ้าหรือกก โดยการเอามาสานเป็นรูปวงแหวนแต่ก็มักจะอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อชาวกรีซรับเอาวัฒนธรรมการนุ่งแหวนไปก็ได้ปรับเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ทำจากเหล็กมาทำเป็นตัวแหวนแทน ซึ่งเชื่อกันว่าแหวนเหล็กนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้กับมนุษย์เพื่อใช้เป็นตัวแทนแห่งความรัก แต่แหวนที่ทำจากเหล็กก็มีปัญหาคือมักจะเป็นสนิม
เมื่อมาสู่ยุคของชาวโรมันที่เชื่อในความมีค่าของทองคำ
แหวนแต่งงานจึงถูกแก้ไขมาใช้ทองคำในการทำตัวเรือนแหวนแทน ทั้งนี้เพราะเชื่อในความสูงค่าของทองคำและได้กลายเป็นแหวนที่ถูกใช้มาจนถึงเดี๋ยวนี้ ซึ่งในปัจจุบันนอกจากแหวนทองแล้วตัวเรือนของแหวนยังถูกพัฒนาและออกแบบให้มีลูกเล่นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น มีการประดับเพชรพลอยและรูปร่างลักษณะของแหวนให้แตกต่างกัน และมีความหลายเหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเรียงเพชรลงบน
แหวนแต่งงานก็เป็นสิ่งที่มีความหมายดี ๆแอบแฝงอยู่เช่นกัน
ขอบคุณอนันทา
https://anantajewelry.com/product-category/bridal/wedding-bands