ถ้าพูดถึงมาตราฐานการเชื่อมต่อแบบความเร็วสูงทุกคนคงจะคุ้นหูกับคำนี้มาก USB ซึ่งเป็นมาตราที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลที่มีความสูงในยุคปัจุจุบัน ซึ่งยุคของ USB เริ่มตั้งแต่ 1.0, 1.1, 2.0 และได้รับการพัฒนามาโดยตลอดอย่างไม่หยุดนิ่งจนมาปัจจุบันเกำลังเข้าไปสู้ยุคของ USB 3.0
จากที่ USB เริ่มกลายเป็นมาตราฐานการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูล ในปี 1998 ซึ่งทาง Microsoft ได้ติดตั้ง Diver สำหรับ USB ใน Windows 98 ตั้งแต่นั้นมา USB ก็มาแทนที่การเชื่อมต่อแบบเดิมๆ เริ่มจาก USB 1.0 มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 1.5 Mbps แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากหนักเพราะเป็นรุ่นแรกของ USB จึ่งได้พัฒนามาเป็น USB 1.1 มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 12 Mbps ต่อมาก็เป็นยุคของ USB 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีความเร็วมากว่า USB 1.1 หลายเท่า จาก 12 Mbps มาเป็น 480 Mbps ซึ่งด้วยความเร็วขนาดนี้จึงทำให้ USB 2.0 กลายเป็น Format ในการเชื่อมต่อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สายรับส่งภายในของ USB 1.0 -2.0 จะมีทั้งหมดด้วยกัน 4 สาย จะเป็นสายรับส่งข้อมูล 2 สายอีกสองสายจะแบ่งเป็นสายจ่ายไฟขนาด +5 V 1 สายส่วนอีกสายจะเป็นสายดิน
มาถึงปัจจุบันเรากำลังเข้าไปสู่การเชื่อมต่อของ ยุค USB 3.0 โดย Promoters Group ที่มีทั้งบริษัท Intel, Microsoft, HP, TI, NEC, NXP และอื่นๆ กำลังวางแผนที่จะเปิดตัวข้อกำหนด USB 3.0 ในครึ่งแรกของปี 2008 โดยจะเพิ่มความเร็วของในการถ่ายโอนข้อมูลของ USB 2.0 ให้มีความเร็วเพิ่มมากขึ้น โดยใช้สายไฟเบอร์ออฟติค เพิ่มเติมจากช่องสัญญาณมาตรฐานที่ใช้ทองแดง ทั้งนี้ยังคงใช้ช่องสัญญาณทองแดงต่อไปเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้กับ USB 2.0 ทำให้ USB 3.0 มีการถ่ายโอนข้อมูลมากกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่า จากที่เคยรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 480 Mbps เพิ่มเป็น 4.8 Gbps จากที่ปกติจะมีแค่ 4 สาย ก็จะมีการเพิ่มเข้ามาอีก 5 สาย สรุปสายภาย USB 3.0 จะมีทั้งหมด 9 สาย
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี่ก็คงไม่หยุดเพียงเท่านี้หรอกคงยังพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งที่สำคัญก็คือมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วแล้วมาก เพิ่งใช้ USB 2.0 อยู่แท้ๆก็จะเปลี่ยน 3.0 อีกล่ะ ถึงกะนั้นผู้ผลิตเขาก็พัฒนาให้ใช้ร่วมกันได้อยู่ดังนั้นจึงไม่เป็นที่น่าเป็นห่วง รูปร่างหน้าตาก็เหมือนๆเดิมไม่เปลี่ยนอะไรเลย แค่มีความไว้เพิ่มก็เท่านั้นเอง
ข่าวสารไอทีจาก
http://www.compgamer.com:80/index.php