ความแตกต่างระหว่าง การซ่อนโฟลเดอร์หรือไฟล์ด้วยคำสั่ง DOS
กับ การซ่อนด้วยการคลิกขวาที่โฟลเดอร์หรือไฟล์ > Properties
ความยากง่ายในการซ่อน แน่นอนว่าการซ่อนด้วยการคลิกขวานั้นง่าย และสะดวกกว่า
ไม่ต้องมานั่งจำคำสั่ง DOS ให้เมื่อยตุ้ม แถมคลิกเพียงไม่กี่คลิกก็เสร็จเรียบร้อย
แต่อย่าลืมว่า การซ่อนโฟลเดอร์หรือไฟล์ด้วยการคลิกขวา
เมื่อเราสั่งเปิดโชว์ไฟล์ที่ซ่อนอยู่ในระบบที่ Tools > Folder Options > View
และเลือก Show hidden files and folders ไฟล์ทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ก็จะแสดงให้เห็นทันที
ในขณะที่ การซ่อนโฟลเดอร์หรือไฟล์ด้วยคำสั่ง DOS
ไฟล์ที่เราได้สั่งซ่อนไว้จะไม่แสดงให้เห็น แม้จะสั่ง Show hidden files and folders ก็ตาม
วิธีซ่อนโฟลเดอร์ด้วยคำสั่ง DOS
1. สร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการซ่อน
ไปที่ Drive C สร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ 1 โฟลเดอร์ และตั้งชื่อตามต้องการครับ
โดยภายในโฟลเดอร์ที่เราได้สร้างขึ้นมาใหม่ เราสามารถที่จะใส่ไฟล์อะไรลงไปก็ได้
จากตัวอย่าง ผมจะสร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ชื่อ TEST ที่ Drive C
2. วิธีซ่อน
ต่อจากนั้นเราจะไปที่ DOS นะครับ ด้วยคำสั่ง Start > Run > พิมพ์ cmd
และเมื่อเปิด DOS ขึ้นมา ให้พิมพ์คำสั่ง attrib +s +h C:\TEST ตามด้วยกดปุ่ม Enter ที่คีย์บอร์ด
เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในการซ่อนครับ
โดยความหมายของคำสั่ง attrib +s +h C:\TEST ก็คือ
attrib = คุณลักษณะ หรือคุณสมบัติ
+ = adds an attribute
s = System
h = Hidden
C:\TEST = ตำแหน่งและชื่อของโฟลเดอร์
3. ยกเลิกการซ่อน
ไปที่ DOS เช่นเดิมครับ ด้วยคำสั่ง Start > Run > พิมพ์ cmd
ตามด้วยพิมพ์คำสั่ง attrib -s -h C:\TEST และกดปุ่ม Enter ที่คีย์บอร์ด
โดยความหมายของคำสั่ง -s -h C:\TEST ก็คือ
attrib = คุณลักษณะ หรือคุณสมบัติ
- = removes an attribute
s = System
h = Hidden
C:\TEST = ตำแหน่งและชื่อของโฟลเดอร์
นอกจากนี้เรายังสามารถซ่อนในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่โฟลเดอร์ได้อีกด้วย
เช่น ซ่อนไฟล์รูปภาพ, ไฟล์เพลง หรือไฟล์เอกสารต่างๆ เป็นต้น
โดยใช้คำสั่งที่ใกล้เคียงกัน และระบุนามสกุลของไฟล์ที่ต้องการซ่อนลงไป
เช่น หากเราต้องการซ่อนไฟล์ test.txt ซึ่งต้องอยู่ที่ Drive C นะครับ
เราจะซ่อนไฟล์ test.txt ด้วยคำสั่ง attrib +s +h C:\test.txt
และยกเลิกการซ่อนด้วยคำสั่ง attrib -s -h C:\test.txt
หรือหากต้องการให้อ่านไฟล์ได้เพียงอย่างเดียว และห้ามไม่ให้มีการแก้ไขใดๆ
เราจะใช้คำสั่ง attrib +s +r C:\test.txt เป็นต้น Enjoy..!!
Key: a = Archive, r = Read-Only, h = Hidden, s = System
ที่มา :
http://mornor.com 
